ประวัติความเป็นมา
การแพทย์แผนไทย (โบราณ)
เป็นสมบัติอย่างหนึ่งของชาติ
เป็นภูมิปัญญาที่ใช้ควบคู่กับการดำรงชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การแพทย์แผนไทยได้ทำประโยชน์ในด้านการรักษาและการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนคนไทยมาแต่ครั้งโบราณกาล
โดยใช้ระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
(Holistic health care System)
ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพ
การรักษาการเจ็บป่วยทางด้านร่างกายและจิตใจพร้อมทั้งคำนึงถึงปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันมีการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างวิชาแพทย์แผนไทย
กับวิชาวิทยาศาสตร์
และวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน เรียกว่า
“การแพทย์แผนไทยประยุกต์”
การเรียนการสอนที่ผสมผสานวิชาดังกล่าวนี้ทำให้แพทย์แผนไทยประยุกต์มีกลไกในการจัดสรรเทคนิค
มีวิธีการวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
พร้อมทั้งสามารถดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้ป่วย
นอกจากนี้การแพทย์แผนไทยประยุกต์ยังเป็นการเชื่อมประสานระบบการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนปัจจุบัน
ให้เกิดความร่วมมือร่วมใจประยุกต์
ใช้องค์ความรู้เพื่อให้เกิดผลดีต่อผู้ป่วย
และทำให้การแพทย์แผนไทยประยุกต์พัฒนาต่อไปจนถึงระดับสากล
การผสมผสานระบบการแพทย์ทั้งสองนี้ในการบริการด้านสาธารณสุข
มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทสังคมไทย
ในการใช้ภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ในการดูแลสุขภาพ
การช่วยเหลือประเทศชาติในด้านการลดการเสียดุลทางการค้า
การนำเข้ายาและเวชภัณฑ์จากต่างประเทศ
และช่วยให้รัฐบาลสามารถแพร่กระจายความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขออกไปถึงประชาชนได้กว้างขวางมากขึ้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญดังกล่าว
จึงเห็น
สมควรจัดให้มีการเรียนการสอนการแพทย์แผนไทยประยุกต์
เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗
เพื่อให้เป็นประโยชน์ในด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้โดยคำนึงถึงการพัฒนาที่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยการพึ่งตนเอง
และดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
โดยการใช้ชีวิตได้อย่างสอดคล้องกับสภาวะสังคมไทย
ซึ่งการแพทย์แผนไทย
ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมสุขภาพของคนไทยที่อยู่คู่ชาติไทยเสมอมาตราบจนเท่าทุกวันนี้